“มาถึงบทความนี้กับ ยาอีกตัวหนึ่งที่ค่อนข้างขายดีในตลาดปศุสัตว์กันเลยทีเดียว เพราะเป็นที่ต้องการของเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ในยุคนี้ ที่จริงแล้วยาตัวนี้ก็เป็นยาบำรุงตัวหนึ่งที่หลายๆท่านกำลังมองหากันอยู่ ในบทความนี้เราจึงมาทำความรู้จักกับยาตัวนี้กันเลย ยาตัวนี้มีชื่อว่า คาโตซาล เรามาทราบถึง วิธีใช้ สรรพคุณ ส่วนประกอบ และการใช้ในสัตว์ปศุสัตว์แต่ละชนิดกันเลยจ้า”
ยาคาโตซาลคืออะไร ?
ยาที่ใช้เพื่อกระตุ้นเมทตาบอลิซึมในร่างกายของสัตว์ให้ทำงานได้ดีขึ้น และยังมีคุณสมบัติในการบำรุงร่างกายอีกด้วย
วิธีใช้ยาคาโตซาล
1.วิธีใช้ใน โค กระบือ แพะแกะ ม้า หมู
- ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ
- ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
- ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง
2.วิธีใช้ในสัตว์ปีก (เป็ด ไก่)
- ผสมน้ำ
ขนาดที่ใช้
- 1 ml ต่อน้ำหนักสัตว์ 10 kg
สรรพคุณของคาโตซาล
- ในสุกร โค กระบือ แพะ แกะ ม้า เป็ด ไก่ สุนัขและแมว เพื่อกระตุ้นระบบเมทตาโบลิซั่มและบำรุงร่างกาย
- ใช้ในสัตว์มีความผิดปกติทางเมทตาโบลิซึมเนื่องจากขาดอาหาร การเลี้ยงดูไม่ดี ป่วย
- ใช้ในสัตว์เพื่อป้องกันความผิดปกติของร่างกาย และโภชนาการของลูกสัตว์
- ใช้ในสัตว์เพื่อป้องกันการเป็นหมัน และการเกิดโรคทางระบบสืบพันธุ์ โดยใช้ควบกับการรักษาโดยตรง
- ใช้ในสัตว์ที่มีการสร้างกระดูกที่ไม่ปกติเนื่องมาจากการขาดฟอสฟอรัส
- ใช้ในสัตว์ที่แสดงอาการอ่อนเพลีย ซูบผอม โลหิตจาง
ส่วนประกอบ
- ขนาด 100 ซีซี มีส่วนประกอบ
ส่วนประกอบของยาคาโตซาล ในขนาด 100 ซีซี | |
1-(เอ็น-บิวทิลอะมิโน)-1- เม็ทธิลเอ็ทธิลฟอสฟอนัสแอซิด | 10.0 กรัม |
วิตามิน บี12 (ไซยาโนโคบาลามีน บี.พี.) | 5.0 มิลลิกรัม |
100 ซีซี ของน้ำยามีฟอสฟอรัส | 1.73 กรัม |
วิธีใช้ในวัว
- ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ
- ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
- ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง
ข้อบ่งใช้ในวัว
- ใช้เพื่อป้องกันการเป็นหมันที่เกิดจากความไม่สมดุลของระดับฟอสฟอรัสในร่างกาย และเป็นโรคทางระบบสืบพันธุ์
- ขนาดที่ใช้ 20 ซีซี 4 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 3 วัน
- ใช้เพื่อบำรุงในช่วงของการตั้งครรภ์
- ขนาดที่ใช้ 30 ซีซี ฉีดเข้ากล้ามเนื้อช่วงระหว่าง 4-6 สัปดาห์ก่อนคลอด
- ฉีดซ้ำอีกครั้ง 8-14 วันหลังคลอด จะช่วยให้การให้นมและการผสมครั้งต่อไปดีขึ้น ป้องกันโรคจากการให้นม
- กรณีแม่สัตว์ไม่มีกำลัง ยืนไม่ได้ในช่วงก่อนคลอดหรือหลังคลอด
- ให้สารละลายแคลเซียมร่วมกับคาโตซาล 30 ซีซี เข้าหลอดเลือดดำ
- พ่อพันธุ์ ฉีดบำรุงเพื่อให้การผสมมีประสิทธิภาพ
- ขนาดที่ใช้ 5-25 ซีซี
วิธีใช้ในหมู
- ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
ข้อบ่งใช้ในหมู
- แม่หมูที่ให้ลูกครอกใหญ่ จะช่วยป้องกันการไม่มีน้ำนม แก้ปัญหาเต้านมอักเสบและช่วยการสร้างน้ำนม
- ขนาดที่ใช้ 20 ซีซี ช่วง 10-14 วันก่อนคลอด
- ฉีดบำรุงลูกหมูแคระแกรน
- ขนาดที่ใช้ 2.5-10 ซีซี
- กรณีลูกหมูกัดหาง จะลดปัญหากัดหางลงได้ในบางกรณี
- ขนาดที่ใช้ 0.5 ซีซีต่อน้ำหนักสัตว์ 1 กิโลกรัม
- แบบก้อนให้กินติดต่อกัน 2 วัน
- แบบก้อนให้กินซ้ำอีกครั้งหลัง 8 วัน
- พ่อหมู บำรุงให้แข็งแรงและผสมเก่ง
- ให้ขนาด 15-20 ซีซี
วิธีใช้ในแพะ
- ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ
- ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
- ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง
ข้อบ่งใช้ในแพะ
- ใช้เพื่อป้องกันการเป็นหมันที่เกิดจากความไม่สมดุลของระดับฟอสฟอรัสในร่างกาย และเป็นโรคทางระบบสืบพันธุ์
- ขนาดที่ใช้ 20 ซีซี 4 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 3 วัน
- ใช้เพื่อบำรุงในช่วงของการตั้งครรภ์
- ขนาดที่ใช้ 30 ซีซี ฉีดเข้ากล้ามเนื้อช่วงระหว่าง 4-6 สัปดาห์ก่อนคลอด
- ฉีดซ้ำอีกครั้ง 8-14 วันหลังคลอด จะช่วยให้การให้นมและการผสมครั้งต่อไปดีขึ้น ป้องกันโรคจากการให้นม
- กรณีแม่สัตว์ไม่มีกำลัง ยืนไม่ได้ในช่วงก่อนคลอดหรือหลังคลอด
- ให้สารละลายแคลเซียมร่วมกับคาโตซาล 30 ซีซี เข้าหลอดเลือดดำ
- พ่อพันธุ์ ฉีดบำรุงเพื่อให้การผสมมีประสิทธิภาพ
- ขนาดที่ใช้ 5-25 ซีซี
วิธีใช้ในไก่ชน
- ผสมน้ำ
ข้อบ่งใช้ในไก่ชน
- อาทิตย์ละครั้งช่วงฤดูผสม
- แบบก้อนให้กินติดต่อกัน 2 วัน
- กรณีไก่จิกขน
- ละลายน้ำให้กิน 0.5-2.5 ซีซี
- ช่วยร่นระยะการผลัดขนให้สั้นลง
- ละลายน้ำให้กิน 0.5-2.5 ซีซี
ความสำคัญของแร่ธาตุในสัตว์
แร่ธาตุเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการและขาดไม่ได้เพราะแร่ธาตุบางชนิดเป็นส่วนประกอบของอวัยวะและกล้ามเนื้อบางชนิดเช่น
- กระดูก
- ฟัน
- เลือด
แร่ธาตุบางชนิดเป็นส่วนของสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเจริญเติบโตในร่างกาย เช่น
- ฮอร์โมน
- เฮโมโกลบิน
- เอนไซม์
นอกจากนี้แร่ธาตุยังช่วยในการควบคุมการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายให้ทำหน้าที่ปกติ เช่น
- ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ
- ระบบประสาท
- การแข็งตัวของเลือด
- ช่วยควบคุมสมดุลของน้ำในการไหลเวียนของของเหลวในร่างกาย
แร่ธาตุเป็นสารกลุ่มอนินทรีย์ ในร่างกายสัตว์ประกอบไปด้วยแร่ธาตุประมาณ 4 – 6 % ซึ่งความต้องการแร่ธาตุของสัตว์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
- ชนิดของสัตว์ สายพันธุ์ และเพศ
- คุณภาพของอาหารและปริมาณสารอาหารที่สัตว์ได้รับ
- ประสิทธิภาพการผลิตของสัตว์ เช่นปริมาณการผลิตน้ำนม มากหรือน้อย
- ระยะของสัตว์ เช่น ไก่ไข่ระยะให้ไข่ หรือแม่โคระยะให้น้ำนม ย่อมมีความต้องการแคลเซียมในการสร้างผลผลิต มากกว่าปกติ
- อายุของสัตว์ สัตว์อายุน้อยจะดูดซึมได้ดีกว่าสัตว์อายุมาก
- สุขภาพของสัตว์ การเป็นโรคหรือมีพยาธิ ขนาดน้ำหนักตัว
- ปัจจัยอื่นๆ เช่น การเสริมแร่ธาตุบางชนิดในปริมาณที่มากเกินไปมีผลยับยั้งการดูดซึมแร่ธาตุชนิดอื่น
เนื่องจากแร่ธาตุป็นองค์ประกอบของอวัยวะในร่างกายสัตว์ซึ่งสัตว์ไม่สามารถขาดได้ หากการใช้สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้เลี้ยงสัตว์คือ
- ส่งผลต่อสุขภาพของสัตว์โดยตรง และส่งผลไปยังผลผลิตของสัตว์ สุขภาพของสัตว์แย่ลง ประสิทธิภาพการผลิตลดลงหากได้รับปริมาณแร่ธาตุที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
- ผู้เลี้ยงสัตว์เสียต้นทุนการผลิตมากขึ้น เนื่องจากการใช้สินค้าที่ไม่ได้ผล ทำให้ต้องเปลี่ยนสินค้าให้ เสียเวลาในการจัดการเพิ่มขึ้นอาจมีการคัดสัตว์ทิ้งเพิ่มขึ้นเมื่อสัตว์ไม่ได้คุณภาพ
- หากคุณภาพของสินค้าไม่มีความสม่ำเสมอเช่น ในบางชุดการผลิตมีความเข้มข้นของแร่ธาตุบางมากกว่าปกติ อาจส่งผลให้แร่ธาตุตัวที่มีมากเกินความต้องการไปยับยั้งการดูดซึมหรือนับยั้งการใช้ประโยชน์ของแร่ธาตุชนิดอื่น
แร่ธาตุและวิตามินที่สำคัญในคาโตซาล
- วิตามินบี 12
- ฟอสฟอรัส
วิตามินบี 12
⮚ หน้าที่สำคัญ
- บำรุงให้สัตว์แข็งแรงเพื่อรับมือกับโรคต่างๆได้ดี
- ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตซึ่งการให้วิตามินบี 12 จะเพิ่มความอยากอาหาร ทำให้กินอาหารได้มาก
- ช่วยในการเมทตาบอลิซึมของโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต จึงทำให้ร่างกายได้รับพลังงานเร็วขึ้นกว่าเดิม
- ช่วยให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายสามารถทำงานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะระบบประสาทและทางเดินอาหาร
- บำรุงสัตว์ ป่วย ฟื้นไข้ หลังคลอด โทรม ผอมแห้ง อ่อนแอ ป่วย
ฟอสฟอรัส
⮚ หน้าที่สำคัญ
- ฟอสฟอรัส และ แคลเซียม มีความสัมพันธ์กัน
- เป็นสารประกอบของกระดูก Phosphoprotein, Nucleic acid,Phospholipids
- มีบทบาทในการเมตาบอลิซึมคาร์โบไฮเดรต เช่น Glucose-6-phosphate,
Adenosine di หรือ tri-phosphate
- ช่วยในการควบคุมสมดุลกรด-เบสภายในและภายนอกเซลล์
⮚ อาการเมื่อขาดฟอสฟอรัส
- กระดูกอ่อน
- กระดูกผุ
- อาการเป็นพิษหรือความสัมพันธ์กับแร่ธาตุอื่นๆ
- วิตามิน D ช่วยในการสร้างกระดูกและดูดซึมฟอสฟอรัสกลับในไต, ถ้ามีแคลเซียม
และแมกนีเซียมสูงเกินไปจะทำให้การดูดซึมฟอสฟอรัสลดลง
⮚ แหล่งที่มาของฟอสฟอรัส
- เมล็ดธัญพืช
- ปลาป่น
- เนื้อ
- กระดูกป่น
แร่ธาตุและวิตามินอื่นๆที่สำคัญกับสัตว์
แคลเซียม
⮚ หน้าที่สำคัญ
- เป็นส่วนประกอบของกระดูกและฟัน เกือบทั้งหมดในร่างกาย
- สร้างกระดูก
- การแข็งตัวของเลือด
- การทํางานของกล้ามเนื้อ
- การทํางานของระบบประสาท
- การซึมผ่านผนังเซลล์ของสารต่าง
- ในเถ้ากระดูกมี แคลเซียม 36% EP 17% แต่จะไม่คงที่ เนื่องจากมีการสะสม
และย้ายออกตลอดเวลาเพื่อสร้างผลผลิต เช่น ไข่ นม
⮚ อาการเมื่อขาดแคลเซียม
- สัตว์กําลังเจริญเติบโต จะเกิดโรคกระดูกอ่อน (Ricket)
- กระดูกมีรูปร่างผิดปกติ
- ข้อต่อจะขยายยาว
- เดินกระแผลก
- ข้อกระดูกเหยียดตรงงอไม่ได้
- สัตว์ที่โตแล้วจะเกิดโรคกระดูกผุ เนื่องจากแคลเซียม จะถูกดึงไปใช้โดยไม่มีการทดแทน
- ทําให้กระดูกไม่แข็งแรง หักง่าย
- ไก่ไข่ จะงอยปากอ่อน การเจริญโตโตหยุดชะงัก ขาโก่ง ไข่เปลือกบาง ไข่ลดลง
โปแตสเซียม
⮚ หน้าที่สำคัญ
- ทําหน้าที่ร่วมกับ Na, CI และ Bicarbonate ion
- เป็นอิออนบวกภายในเซลล์ที่ทําให้เกิดแรงดันออสโมซีส
- รักษาสมดุลกรด-เบส
⮚ อาการเมื่อขาดโปแตสเซียม
- เกิด Hypokalemia (K ในเลือดต่ำกว่าปกติ)
- การเจริญเติบโตชะงัก
- ชัก
- กระตุก
- ท้องร่วง
- ท้องอยู่ผิดตําแหน่ง
- หมดสติ และตาย
โซเดียม
⮚ หน้าที่สำคัญ
- เป็น lon ที่เป็นหลักภายนอกเซลล์ที่ช่วยให้เกิดแรงดันออสโมซีส
- สมดุลกรด-เบส
- ช่วยในการซึมผ่านผนังเซลล์ของสารอาหาร
- ช่วยในการทํางานของกล้ามเนื้อ
⮚ อาการเมื่อขาดโซเดียม
- การเจริญเติบโตลดลง
- ตาอักเสบ
- ระบบสืบพันธุ์ผิดปกติ(เป็นหมันและเป็นหนุ่มเป็นสาวช้ากว่ากําหนด)
- ถ้าหากมีเกลือในอาหารเกิน 8% จะทําให้เป็นพิษ
- ตาบอด
- ระบบประสาททํางานผิดปกติและชักกระตุก
คลอรีน
⮚ หน้าที่สำคัญ
- ทําหน้าที่ร่วมกับ Na และ Kเพื่อรักษาสมดุลกรด-ด่าง
- เป็นอิออนลบที่เป็นหลักในระบบออสโมซีสของกรดเกลือในน้ำย่อย
⮚ อาการเป็นพิษ
- ได้รับมากเกินไป ทําให้กระหายน้ำมาก
- กล้ามเนื้อเปลี้ยและเกิดการบวมน้ำ
กํามะถัน หรือ ซัลเฟอร์
⮚ หน้าที่สำคัญ
- เป็นส่วนประกอบของกลุ่มซัลไฟดริล (SH) ของกรดอะมิโนบางตัว (ซีสทีน,
ซีสเตอิน และเมทไธโอนีน)
- กลุ่มซัลไฟดริลมีหน้าที่ในการหายใจของเนื้อเยื่อต่าง ๆ
⮚ อาการเมื่อขาดกำมะถัน
- การเจริญเติบโตชะงักเนื่องจากขาดกรดอะมิโนที่มีซัลเฟอร์เป็นองค์ประกอบ
- ปกติมักจะไม่ขาด ถ้าขาดแสดงว่า สัตว์ขาดโปรตีนด้วย
แมกนีเซียม
⮚ หน้าที่สำคัญ
- เป็นตัวกระตุ้นเอนไซม์ในระบบ Glycolysis
- ช่วยในการสร้างกระดูก
⮚ อาการเมื่อขาดแมกนีเซียม
- เส้นเลือดขยายตัว
- ตื่นเต้นง่ายและชักกระตุก
- ขาดสมดุลในการทรงตัวและสั่น
⮚ อาการเป็นพิษ
- ถ้าหากมีสูงเกินไปจะขัดขวางการใช้ประโยชน์ของแคลเซียมและฟอสฟอรัส
เหล็ก
⮚ หน้าที่สำคัญ
- เกี่ยวข้องกับการหายใจและการแลกเปลี่ยนออกซิเจน
- อาการเมื่อขาดเหล็ก
- โลหิตจาง (Hypochromic microcytic)
⮚ อาการเป็นพิษ
- สัดส่วนระหว่าง Ca และ P มีผลต่อการดูดซึมเหล็กและทองแดง
- มีผลต่อการใช้ประโยชน์ของเหล็ก
- หากขาดวิตามิน B. จะลดการดูดซึมเหล็ก
ทองแดง
⮚ หน้าที่สำคัญ
- เป็นปัจจัยร่วม (Co-factor) ของเอนไซม์หลายชนิด
- มีบทบาทในการสังเคราะห์ฮีโมโกลบิน
- สร้างกระดูก และ Myelin ของประสาท
- อาการเมื่อขาดทองแดง
- สีขนจางหรือขนไม่ขึ้น
- โลหิตจาง
- กระดูกเปราะ
- ข้อต่อของกระดูกบวม
- มีอาการทางประสาท
⮚ อาการเป็นพิษ
- หากมีโมลิบดินัมและสังกะสีมากเกินไป จะไปยับยั้งการใช้ประโยชน์ทองแดง
- หากทองแดงในอาหารเกิน 250 ppm จะเป็นพิษ โดยสัตว์จะมีอาการคล้าย กับขาดทองแดง
สังกะสี
⮚ หน้าที่สำคัญ
- เป็นองค์ประกอบของเอนไซม์หลายชนิด เช่น Peptidase, Carbonic
anhydrase
⮚ อาการเมื่อขาดสังกะสี
- การเจริญของขนผิดปกติ
- ขนร่วง
- หนังหนา
- หยาบและตกสะเก็ด
⮚ อาการเป็นพิษ
- ถ้าหากมี Ca และ P สูงเกินไป จะไปขัดขวางการใช้ประโยชน์ของสังกะสี
- ถ้าหากสังกะสีมีมากเกินไปก็จะไปขัดขวางการใช้ประโยชน์ของทองแดงทํา ให้เกิดโรคโลหิตจาง
วิตามิน (Vitamins)
วิตามิน เป็นโภชนะที่มีองค์ประกอบซับซ้อน และมีความจําเป็นต่อปฏิกิริยาทางเคมีในร่างกาย วิตามิน ที่ยอมรับกันว่า มีความสําคัญในทางโภชนศาสตร์ มี 18 ตัว การตั้งชื่อวิตามินสมัยก่อน ตั้งชื่อเป็นตัวอักษรขึ้นอยู่กับเวลาที่ค้นพบ แต่ในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะใช้ชื่อตามคุณสมบัติทางเคมี (Chemical nature) มากกว่า
วิตามิน A
⮚ หน้าที่สำคัญ
- สร้างกระดูก
- การทํางานของสายตา
- สุขภาพของเยื่อชุ่ม
- สังเคราะห์กลูโคส (Adrenocorticoid hormone)
- การเจริญเติบโต อาการขาด – ตาบอดกลางคืน (Night blindness)
- ผิวหนังตกสะเก็ด
- การเจริญเติบโตชะงัก
- การสืบพันธุ์ล้มเหลว
⮚ อาการเป็นพิษ
- อาการเป็นพิษคล้ายกับอาการขาด
- กระดูกเจริญผิดปกติ
- ผิวหนังตกสะเก็ด
วิตามิน D
⮚ หน้าที่สำคัญ
- สร้างกระดูก (การดูดซึม Ca และ P และการพอกพูน Ca ในกระดูก)
- การใช้ประโยชน์จากคาร์โบไฮเดรต (Phosphorylation
- การเจริญเติบโต
⮚ อาการเมื่อขาดวิตามิน D
- โรคกระดูกอ่อน
- กระดูกผุ
- เปลือกไข่นิ่ม
⮚ อาการเป็นพิษ
- เคลื่อนย้าย Ca จากกระดูกไปสู่เนื้อเยื่ออื่น ๆ
วิตามิน K
⮚ หน้าที่สำคัญ
- สร้างโปรทรอมบิน (Prothrombin) ซึ่งช่วยให้เลือดแข็งตัว
⮚ อาการเมื่อขาดวิตามิน K
- เลือดไหลไม่หยุดและแข็งตัวช้า
วิตามิน E
⮚ หน้าที่สำคัญ
- ป้องการการออกซิไดซ์ไขมัน
- ป้องกันการสลายตัวของกล้ามเนื้อ
- ช่วยให้ระบบสืบพันธุ์เป็นปกติ โดยเฉพาะ Seminiferous epitheliu
⮚ อาการเมื่อขาดวิตามิน E
- กล้ามเนื้อสลายตัว
- บวมน้ำ
- การสืบพันธุ์ล้มเหลว